The Checkpoint ล่าแต้ม(ใน)โลกอสูร
มิกคาร์เอลว์... และเพื่อนๆของเขาเข้าไปในโลกของอสูร เพื่อไปหาคนนึงที่เป็นตัวการในการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งหมด ...ติดตามได้
ผู้เข้าชมรวม
137
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
The Checkpoint ล่าแต้ม(ใน)โลกอสูร
เนื้อเรื่องโดย ... ต้นข้าวสีเงิน(rice silver)/ECM
ท่ามกลางหิมะสีขาวที่ตกลงมาเล็กน้อย
บนต้นไม้น้อยใหญ่มีละอองของหิมะจนจับตัวกันกลายเป็นก้อนหิมะขนาดกลาง
ใหญ่ตามสภาพภูมิประเทศ แต่มีป่าแห่งหนึ่งกลางมหานครสยามมีหิมะจำนวนมากที่กำลังตกลงมามากไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดตก
ตามพื้นดินเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะปกคลุมทั่ว
รอยรองเท้าจำนวนไม่มากที่มีจุดมุ่งหมายเข้าไปในป่าเมื่อมองเข้าไปปรากฏแผ่นหลังของบุคคลปริศนาสามคน
กำลังยืนอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่ดูสะดุดตาและสวยที่สุด
“ตรงนี้เหรอมิกคาร์เอลว์ ที่ท่านไคซิสให้มาหา” ‘กรอยด์เรน’ หนุ่มรูปร่างสูงราวร้อยเจ็ดสิบปลายๆ
เงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ที่ดูจะตกเป็นประเด็นให้เขาสงสัย ใบหน้าจิ้มลิ้มของเขาดูเหมือนเด็กอายุสิบห้าแต่อายุของเขาจริงนั้นไม่มีใครรู้แน่ชัด
“ใช่!!!
ท่านไคซิสส่งสารให้มาหาตรงนี้จริงๆ แล้วก็...ให้หาใบไม้สีดำ” ‘มิกคาร์เอลว์’ ชายหนุ่มที่รุ่นราวคราวเดียวเอ่ยขึ้นพร่างถอดหมวกแก๊ปสีดำออก
ใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาอาจทำให้สาวๆหลายคนต้องตะลึงกับความหล่อที่ธรรมชาติแต่งเติมให้ตั้งแต่เกิด
จมูกโด่งเป็นรูป ขอบตาคมกริบและมีสีดำเหมือนถูกเขียนด้วยอาไลยเนอร์ นัยน์ตาของเขาเป็นแววตาของคนที่มีฉายาว่า ‘ผู้ล่าวิญญาณ’
เขาจับผ้าเก่าๆที่ปกปิดปากของเขาไม่ให้กระทบลมหนาวที่มีอุณหภูมิติดลมถึงเก้าองศา
ริมฝีปากของเขาเริ่มสัมพันธ์กับลมหนาวที่กำลังกระทบทุกส่วนของร่างกาย
“ใบไม้สีดำ!!! มันจะมีได้ยังไงที่นี่มันป่าน่ะ เหอะ” ‘ไอริส’
สาวสวยที่มีใบหน้าน่ารักแต่ดวงตาเธอแฝงไปด้วยความน่ากลัว
ผมสีขาวเธอปล่อยลงมาตามอิสระอย่างสลวย เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย
ก่อนมิกคาร์เอลว์จะสังเกตเห็นบ้างอย่างบนต้นไม้ที่สูงประมาณยี่สิบฟุตได้
เขายื่นมือขวาออกมาเพื่อรองรับอะไรบางอย่างที่กำลังจะตกลงบนฝ่ามือของเขา
ใบไม้สีเขียวสด ลักษณะเป็นสามแฉกค่อยหล่นลงมาตามลม ก่อนที่มันจะตกลงบนมือของเขา
ใบไม้สีเขียวสดค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวแก่และน้ำตาลจากนั้นมันกลายเป็นใบไม้สีดำตามลำดับ
สร้างความตกใจให้กับเพื่อนของเขาทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นอย่างมาก
สีหน้าของไอริสบ่งบอกว่า “เป็นไปไม่ได้”
ไม่กี่วินาทีใบไม้สีดำแตกและปลิวไปกับสายลม
ต้นไม้ค่อยๆเปลี่ยนสภาพตั้งแต่โคนหล่ามขึ้นไปเรื่อย
จากใบไม้สีเขียวนามองตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นสีดำสามแฉกทั้งต้นเพียงไม่ถึงห้าวินาที
ลมร้อนพัดมาทางต้นไม้ ใบไม้สีดำแตกไปพร้อมลมแรง และค่อยๆ สลายหายไปพร้อมกับอากาศ
ท้องฟ้าที่ตอนแรกมีสีฟ้าขาวสว่างสดใส น่ามอง
ตอนนี้มันกลายเป็นท้องฟ้าสีแดงส้มที่น่ากลัวไม่น่ามองเอาเสียเลย
ก้อนเมฆเคลื่อนตัวเข้าหากันจับตัวกันเป็นก้อนเมฆขนาดใหญ่สีของมันเปลี่ยนเป็นโทนม่วงแซมดำ
พวกเขาทั้งสามเองก็รู้ว่าพวกเขาเองไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์แต่อยู่ในโลกของปีศาจ
โลกที่พวกเขาเจอมาตลอดทั้งชีวิต
พวกเขาเริ่มก้าวเท้าเดินด้วยความมั่นใจเหมือนที่เคยผ่านมา
“ระวังตัวกันด้วยที่นี่
ไม่ใช่โลกปีศาจที่เราจะมายุ่งตั้งแต่แรก” มิกคาร์เอลว์ ว่าแล้วก็หยิบมีดขนาดเล็กขึ้นมาก่อนจะเปิดกลไลเปลี่ยนให้มันเป็นดาบเปล่งแสงสีแดงขนาดใหญ่
หญิงสาวเองก็ชักปืนขนาดกลางขึ้นมาออกมาตรงเอวข้างขวา เธอตั้งท่าเตรียมพร้อมทุกเวลา
ต่างจากกรอยด์เรนที่ยืนมองเพื่อนทั้งสองเฉยแล้วเดินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างก้าวทุกพฤติกรรมของพวกเขาถูกจับจ้องไปด้วยดวงตาสีดำสนิทหลายดวง
มันค่อยๆ ตื่นจากการหลับใหลเป็นเวลานาน พวกมันค่อยใช้เท้ายันตัวขึ้น
มันแฝงตัวจากที่โล่งแจ้งด้วยการหลบอยู่หลังต้นไม้ บางตัวแฝงตัวอยู่ตามต้นไม้
ก้อนหิน หรือแม้กระทั่งพื้นดิน บางตัวปกปิดตนด้วยการล่องหนบนอากาศ แหล่งน้ำเล็ก
พวกมันกำลังเพ่งมองผู้บุกรุกที่เข้ามาในที่ที่ไม่สมควรจะเข้ามา เลือด วิญญาณ
คือสิ่งที่พวกมันต้องการมานานเพื่อเพิ่มพลังชีวิตที่กระหายมานานนับร้อยปี
ความกระหายของพวกมันบ่งบอกได้ว่าความอดทนของพวกมันต่ำมาก
มันรอไม่ไหวที่จะเห็นอาหารจานหลักของมันลอยหายไปเฉยๆ “หลังต้นไม้...ก้อนหิน... ”
มิกคาร์เอลว์กระซิบเบาๆเพื่อให้รู้กันแค่สามคนเท่านั้น
พวกมันจู่โจมพวกเขาไม่ทันตั้งตัวแต่ทั้งสามก็รับมือได้สบาย
กรอยด์เรนเห็นปีศาจตัวใหญ่ หัวฟูสีดำเหมือนสิงโต แต่ลำตัวเป็นอินทรีย์สีดำสี่ขา ดวงตาของมันดำสนิทส่องแสงสีขาวรอบๆ
โผล่ออกมาจากอากาศด้วยความเร็ว เขาหลบไปทางซ้ายทันทำให้มันไถลลงบนพื้นไกลจากเขาหลายเมตรฝุ่นละอองสีน้ำตาลโอบรอบตัวมัน
ดวงตาคู่นั้นกำลังหันกลับมาจ้องมองเขาด้วยความกระหาย เขายิ้มมุมปากพร่างกระดิกนิ้วชี้เบาที่ขาเขาสามครั้ง
ก่อนที่แขนเขาจะมีขนสีขาวแซมขึ้นมาตามผิวหนังสีขาวของเขา
นิ้วมือเขาเริ่มมีเล็บสีเทาอ่อนงอกขึ้น ร่างกายค่อยๆขยายใหญ่ออกมากขึ้นเรื่อย
จมูกยื่นออกมายาวขึ้นคล้ายจมูกของหมาป่า ดวงตาของเขากล้ายเป็นดวงตาสีเขียว
ดวงตาของผู้ล่าโดยเวลาไม่กี่วินาที เขากลายเป็นหมาป่าสีขาวตัวใหญ่พอๆกับคู่ต่อสู้ของเขาเอง
มันค่อยๆวิ่งไปหากรอยด์เรน และเพิ่มความเร็วเรื่อยๆ
เขาเองก็ค่อยวิ่งๆและเพิ่มความเร็ว เพื่อจู่โจมศัตรูทั้งคู่ปะทะกันด้วยความดุเดือด
ในขณะที่ไอริสกำลังใช้ปืนของหล่อนเล็งไปที่หัวของศัตรูแล้วสอยพวกมันตกลงบนต้นไม้ทีละตัวสองตัว มิกคาร์เอลว์ใช้ดาบของเขาฟันไปที่พวกมันจนขาดเป็นสองท่อน
ศพค่อยๆหายซึมหายไปกับพื้นดินทิ้งไว้เพียงรอยเลือดสีดำที่ไหลออกจากตัว
ทั้งสามสู้กับศัตรูนับร้อยที่กำลังหิวโหย
และพยายามตะคลุบเหยื่อให้ได้พวกมันวิ่งใส่พวกเขาเรื่อยๆ
และยิ่งนานพวกมันยิ่งวิ่งเขามาเร็วและมากสองเท่า ร่างพวกมันเองก็กระเด็นออกมาเรื่อยๆ
ทั่วบริเวณนั้นมีกองเลือดเต็มไปหมดแต่ก็มีพื้นดินค่อยซึมซับลง “ถ้าเยอะขนาดนี้
เราคงสู้กับพวกมันไม่ไหวหรอก!!!” ไอริสตะโกนบอก
มิกคาร์เอลว์สังเกตเห็นถ้ำขนาดใหญ่อยู่ข้างหลังจึงหันไปตะโกนบอกอีกครั้ง “ไปที่ถ้ำ!!!”
ว่าแล้วไอริสก็วิ่งนำหน้าไปก่อนแล้วค่อยยิ่งคุ้มกันให้อีกสองคนวิ่งมาปากถ้ำ
กรอยด์เรนวิ่งไปทางมิกคาร์เอลว์ที่กำลังเสียบดาบลงบนหัวสิงโต
เขากระโดนขึ้นบนหลังหมาป่าสีขาว
กรอยด์เรนค่อยๆเร่งความเร็ววิ่งไปในถ้ำให้เร็วที่สุด
ไอริสวิ่งเขาไปในถ้ำก่อนที่มิกคาร์เอลว์และกรอยด์เรนจะตามเธอไป ตอนนี้ไอริสสังเกตว่าไม่มีศัตรูตามมาแล้วจึงหันไปดูในถ้ำ
เธอพบกับทางเขาถ้ำที่มืดมิด
ทั้งสามกันพากันเดินเข้าไปในถ้ำที่มือมิดโดยมีแสงสว่างจากดวงไฟสีฟ้าจากมือไอริสที่หล่อนเอาออกมาจากกระเป๋าเป้
ยิ่งเดินพวกเขาก็เหมือนว่ายิ่งใกล้พบกับบุคคลที่เขาอยากเจอมากขึ้น ห่างไปไม่กี่ก้าวแสงสว่างสีขาวจากอีกฝั่งของถ้ำกระทบกับด้วยตาของทั้งสาม
แสงนั้นทำให้เขาแสบตาและใช้มือบังเพื่อไม่ให้มองโดยตรง ไม่นานแท่นน้ำแข็งขนาดใหญ่
กลางหลากหลายขนาด ย้อยลงมาจากข้างบนของถ้ำ รอบพวกเขากลายเป็นน้ำแข็ง
และความหนาวค่อยๆปกคลุมทุกฝุ่นละอองในอากาศ พวกเขามองไปรอบๆ
พร่างเดินแยกกันไปสำรวจทั่วๆ แปะ! แปะ! แปะ! เสียงปรบมือสามครั้งดังขึ้น
พร้อมกับปรากฏชายหนุ่มวัยสี่สิบกว่า ผมสั้นซอยขาวเสมือนขนของหงส์
สีผิวของเขาขาวราวหิมะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้มของเขาเผยออกมาจนเกือบถึงหู
รอยยิ้มนั้นอาจจะดูดีและอบอุ่น แต่ดวงตาและสีหน้าของเขาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และความหล่อของเขาที่ไม่แพ้ใครเหมือนกันทำให้เขาดูมีเสน่ห์
และแผนการต่างที่กำลังวนเวียนอยู่ในหัวสมองของเขา
พร้อมที่จะสั่งให้ใครไปทำให้เขาหรือเขาต้องการที่จะลงมือเอง
เขาแสดงออกมาทางสีหน้าได้ชัดเจนแต่สิ่งที่ยากจะรู้คือเขาคิดจะพูดและทำอะไรต่อไปกับสหายทั้งสามกันแน่
“ว้าว! พวกท่านก็ยังทำให้ข้าไม่ผิดหวังจริง”
เขาเผยเสียงหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะ เปลี่ยนสีหน้าเป็นอีกอารมณ์
เขาเปลี่ยนแววตาเป็นความมืดมิด ผมเขากลายเป็นสีดำสนิท ชุดเขาค่อยเป็นเป็นโทนสีดำ
ตัดกับสถานที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ เสียงคลื่นที่ดังขึ้นเลยๆ
ทั้งสามมองหาเสียงแปลกประหลาด ทำไมในถ้ำขนาดใหญ่ถึงมีเสียงของคลื่นน้ำทะเลได้
หรือว่าพวกเขาแค่คิดมากไปเอง ยิ่งเวลาผ่านไปเพียงไม่ถึงห้านาที
น้ำจำนวนมากไหลเข้ามาที่ปากถ้ำเสมือนกำลังจะเกิด
สึนามิขึ้น มิกคาร์เอลว์หันไปมองแท่นน้ำแข็งที่(เคย)มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่
แต่ตอนนี้แม้แต่ร่องรอยของเขาก็ยังไม่เห็น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นหลักของเขาและเพื่อนที่อยู่ตรงหน้านี้ตั้งหาก สายตาทุกคนพยายามมองหาทางออก
แต่มันก็ไม่มีช่องว่างหรือแสงสว่างเลย พวกเขาถูกคลื่นซัดด้วยความแรงจนหมดสติไป
รู้ตัวอีกทีพวกเขามาโผล่ที่ไหนเนี่ย!
rice silver
คอมเม้นด้วยน่ะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ต้นข้าวสีเงิน(Eun Chon Mi) ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ต้นข้าวสีเงิน(Eun Chon Mi)
ความคิดเห็น